"ซึ่งตอนนี้เรายังไม่มีชื่อและคนที่จะเข้ามาต้องทำงานเต็มเวลา เพราะอีกหนึ่งเดือนก็จะมีเกมการแข่งขันงผู้ช่วยก็ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เล่นของไทยและวิธีการเล่นของทีมชาติไทย"
"ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเครียดมาก เพราะการตัดสินใจเลือกโค้ชทีมชาติไทยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ การเลือกเฮดโค้ช การที่โค้ชหนึ่งคนมีชื่อเสียงโด่งดัง หรือมีโปรไฟล์ และประสบการณ์ ไม่ได้แปลว่าจะพาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จ แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความตั้งใจของโค้ชที่เข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างเราคาดเดาไม่ได้ แต่เวลาที่มีอยู่เราจะให้การสนับสนุนมากที่สุดเท่าที่ทำได้"
"เป้าหมายแรกเราต้องการขยับเรื่องฟีฟ่า แรงกิ้ง เราใช้เวลาหลายปีในการขยับขึ้นมา เราต้องการอยู่ในอันดับที่ดี เพื่อการจับสลากรายการใหญ่ๆ เรามีความได้เปรียบ การที่เราจะสามารถเชิญทีมใหญ่ๆมาเล่นในอนาคต ฟีฟ่า แรงกิ้งก็คือเป้าหมายระยะสั้น ซึ่งฟีฟ่า แมตช์ก็จะมีคะแนนให้เราอยู่แล้ว"
"โปรแกรมปีนี้ เนื่องจากมีโปรแกรมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ทำให้เหลือช่วงเวลาที่ว่างแค่เดือนตุลาคม ที่จะใส่เกมเข้าไปได้ แต่ปีหน้ามี 12 นัดที่ว่าง เราก็จะวางแผน และเตรียมการตั้งแต่วันนี้ เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการปรับแรงกิ้งของทีมชาติไทย และปูทางเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ"
"เรื่องค่าเหนื่อยเราไม่มีการปรับลดราคาแต่อย่างใด เพราะเราไม่ต้องการให้เขาลดราคา เพราะเราต้องการทีมงานที่ดีที่สุด มั่นใจที่สุด เพราะเขาเข้ามาในช่วงเปลี่ยนผ่าน ความกดดันจากแฟนบอล ความคาดหวังจากสมาคมฯ และทุกคนที่สนับสนุนทีมชาติไทย คุณจะลดราคาเพื่อใช้ทีมสตาฟฟ์ที่คุณไม่มั่นใจมาไม่ได้ เพราะคุณต้องทำงานในเวลาที่จำกัด ทุกคนที่เข้ามายื่นข้อเสนอมา เราสามารถจ้างได้ ไม่มีใครที่สูงเกินไป"
"เรื่องค่าจ้างไมใช่ตัวชี้วัด เพราะหลังสัมภาษณ์ คุณวิทยา เลาหกุลเป็นผู้ดูว่าเขาสามารถยกระดับหรือปรับอะไรกับทีมชาติไทยได้บ้าง ทั้งเรื่องแท็คติก และปรัชญา ส่วนเรื่องค่าเหนื่อยค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นไม่มีผลต่อเรื่องการที่ทั้งแปดคนเข้ามา"
"ถ้าเราเลือกคนไหน คุณวิทยา เลาหกุล มองว่าคนไหนเหมาะสมที่สุด เราสามารถจะจ่ายได้ ส่วนเรื่องตัวเลขเราคงเปิดเผยไม่ได้ การประเมินผลงาน ฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ ก็จะดูในเรื่องของการพัฒนาด้านการผ่านบอล แท็คติกต่างๆ เราจะมีจุดเช็คสองช่วงคือเดือนธันวาคม และเดือนพฤษภาคมปีหน้า เพื่อประเมิน ถ้าเกิดไม่ผ่านก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง"
สำหรับ มิโลวาน ราเยวัช เคยนำ ทีมชาติกานาผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกไปจนถึงสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบลึกที่สุดในเวิลด์คัพครั้งนั้นด้วยการเป็น 8 ทีมสุดท้าย ก่อนพ่ายจุดโทษให้กับ ทีมชาติอุรุกวัย ที่สำคัญเขายังมีประสบการณ์ทำงานในเอเชียกับสโมสร อัล อาห์ลี และ ทีมชาติกาตาร์ รวมถึงยังมีดีกรีเป็นโค้ชยอดเยี่ยมแห่งทวีปแอฟริกา และ โค้ชยอดยอดเยี่ยมสมาคมฟุตบอลเซอร์เบีย