AFC เปิดสถิติวิเคราะห์ความผิดพลาดของ ช้างศึก ในเกมพ่าย กรีน ฟอลคอนส์ ขาดลอย ซึ่งเหตุผลสำคัญคือลูกทีเด็ดจากการเปิดริมเส้น และ เซ็ตพีซ ไม่มีความแม่นยำ
สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) เขียนบทความวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของ ทีมชาติไทย ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่เปิดบ้าน แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 0-3 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยชี้ชัดว่า ทีมของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ไม่สามารถสร้างปัญหาให้ทีมของ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ได้เลย
"หลังเก็บแต้มแรกจากการเสมอ ออสเตรเลีย 2-2 ได้เมื่อปีที่แล้ว ทีมชาติไทยต้องพบกับจ่าฝูงของกลุ่มอย่าง ซาอุดิอาระเบีย ด้วยความมั่นใจว่าจะเก็บชัยชนะได้ แต่แล้วทีมของ เบิร์ต ฟาน มาไวค์ กลับเป็นฝ่ายเอาชนะไปแบบไม่ยากเย็นด้วยสกอร์ 3-0" บทความจากเอเอฟซีเปิดหัวถึงเกมนัดที่ไทยแพ้บนราชมังคลากีฬาสถานด้วยสกอร์ที่ห่างที่สุดในรอบ 3 ปี
"ทีมชาติไทยมีโอกาสยิง 6 ครั้ง เข้ากรอบเพียงครั้งเดียว แต่สิ่งที่น่าผิดหวังคือการครอสจากริมเส้นที่ที่เข้าเป้าเพียง 2 ครั้งจากทั้งหมด 14 ครั้ง ขณะที่ลูกเซ็ตพีซก็ไม่สามารถสร้างความอันตรายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว" (การครอสที่เข้าเป้า 2 จาก 14 ครั้งมาจาก ธีรศิลป์ แดงดา และ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา คนละครั้ง"

นอกจากนี้ เอเอฟซี ยังเขียนถึง 2 ผู้เล่นของทีมชาติไทยในเกมนี้อย่าง สิโรจน์ ฉัตรทอง รวมถึง พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ที่ลงมาเป็นสำรองในครั้งหลังด้วยว่า
"สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าร่างใหญ่ของทีมชาติไทย พยายามฉีกตัวไปเล่นริมเส้นบ่อยครั้ง และทีมของ เกียรติศักดิ เสนาเมือง ก็เริ่มเปิดเกมบุกมากขึ้นหลังเสียประตู แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหาช่องโหว่ในแนวรับของ ซาอุดิอาระเบีย ได้ และ ยาสซิร อัล มุไซลีม ก็ไม่เจอปัญหามากสักเท่าไหร่"
"พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ลงมาในครึ่งหลังและก็ทำพลาดสองครั้งจากโอกาสได้ยิงประตูในกรอบเขตโทษ นอกจากนี้มิดฟิลด์ฝั่งซ้ายรายนี้ยังครอสบอลพลาดถึง 5 จาก 6 ครั้งที่มีโอกาส ซึ่งทำให้เจ้าถิ่นพลาดการได้ประตูในครึ่งหลัง"
ทีมชาติไทย นั้นยังมีเพียงคะแนนเดียวจาก 6 นัดรั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม โดยนัดต่อไปจะพบกับ ญี่ปุ่น ที่ไซตามะ สเตเดียม วันที่ 28 มีนาคมนี้