31 ธันวาคม นอกจากจะเป็นวันส่งท้ายปีเก่าแล้ว ยังเป็นวันสำคัญของแมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเกิดของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เนื่องในโอกาสที่ป๋าฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 75 วันนี้เราลองไปดู 5 วันที่ยิ่งใหญ่ของป๋ากัน
11 พฤษภาคม 1983, อเบอร์ดีน 2-1 เรอัล มาดริด
European Cup Winners' Cup final,
Nya Ullevi Stadium, Gothenburg
"อย่าไปพูดให้ใครฟัง แต่เชื่อฉัน นี่มันโอกาสดีมากของเรา" เซอร์อเล็กซ์พูดกับอาร์ชี่ น็อกซ์ ผู้ช่วยของเขาก่อนเกม การชนะบาเยิร์นในรอบก่อนรองชนะเลิศเป็นเทพนิยายพอแล้ว แต่ชัยชนะในนัดชิงชนะเลิศที่โกเธนเบิร์กเป็นยิ่งกว่านั้น
ลูกจุดโทษของฆัวนิโต้ เป็นประตูตีเสมอของเรอัล มาดริด หลังเอริค แบล็ค พังตาข่ายให้อเบอร์ดีนนำก่อนนาทีที่ 7 ที่สุดแล้ว "เดอะ ดอนส์" มาเบียดเอาชนะเรอัลในช่วงต่อเวลาพิเศษเมื่อมาร์ค แม็คกี เปิดบอลเข้ากลางให้จอห์น เฮวิตต์ โหม่งเข้าไป
อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ตำนานเรอัล มาดริด สรุปความยิ่งใหญ่ของอเบอร์ดีน "พวกเขามีสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้นั่นคือจิตวิญญาณ ทีมสปิริตที่สร้างจากวัฒนธรรมแบบครอบครัว"
6 November 1986,Appointed Manchester United manager
อาร์เซน่อล, สเปอร์ส และเรนเจอร์ส พากันอยากได้เซอร์อเล็กซ์ ตอนเขาคุมอยู่อเบอร์ดีน แต่ทีมที่ทำให้เฟอร์กูสัน ในวัย 44 เวลานั้นตอบรับคือโทรศัพท์จากโอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาถูกเลือกมาเป็นตัวแทนของรอน แอตกินสัน แต่ก็เกิดข้อถกเถียงอย่างมากที่เซอร์บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานสโมสร กล่อมผู้บริหารแมนฯ ยูไนเต็ดเลือกเซอร์อเล็กซ์ ไม่ใช่เทอร์รี่ เวนาเบิลส์
"ผมถามผู้บริหารด้วยกันว่า พวกเขาเคยเห็นเฟอร์กูสันคุมทีมข้างสนามมั้ยตอนอเบอร์ดีนคว้าชัยชนะที่โกเตนเบิร์ก" เซอร์บ๊อบบี้กล่าว "ผมบอกว่าเขาคุมด้วยอินเนอร์ล้วนๆ ทุกเม็ดทุกจังหวะในเกม ไม่ว่าจะสั่งการข้างสนาม หรือเติมความเชื่อมั่นให้นักเตะ"
2 พฤษภาคม 1993, แอสตัน วิลล่า 0-1 โอลด์แฮม
Premier League
ปีแรกๆ ของเซอร์อเล็กซ์ ที่แมนฯ ยูไนเต็ดไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบสักนิด แฟนๆ ออกอาการ "หัวเสีย" ที่แมนฯ ยูไนเต็ดไม่ประสบความสำเร็จในเดือนตุลาคม 1989 อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด "ยืนหยัด" และได้รับตอบแทนในระยะยาว เริ่มต้นที่ยูไนเต็ดเอาชนะคริสตัล พาเลซ และได้แชมป์เอฟเอ คัพปี 1990 หลังจากนั้นทีมที่ถูกสร้างอย่างปรานีตที่สุดก็คว้าแชมป์ลีกหนแรกตั้งแต่ปี 1967 แม้เซอร์อเล็กซ์จะรู้เรื่องตอนออกรอบตีกอล์ฟ เขาเล่าว่า "ชายคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จักขึ้นเนินมาและยิ้มแฉ่ง เขาบอกผมว่า "ขออภัยที่รบกวนคุณเฟอร์กูสัน คุณเป็นแชมป์แล้ว โอลด์แฮมชนะที่แอสตัน วิลล่า"
26 พฤษภาคม 1999
แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 บาเยิร์น
UEFA Champions League final, Camp Nou
"Football – bloody hell" เป็นปฏิกิริยาของเซอร์อเล็กซ์ ขณะอยู่หน้ากล้อง หลังทีมของเขาพลิกนรกแตกจากแพ้เป็นชนะด้วยประตูช่วงทดเจ็บจากเท็ดดี้ เชอริงแฮม และโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่เล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นครั้งแรกที่ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ใหญ่สุดของฟุตบอลภายใต้การนำของเซอร์อเล็กซ์ และคว้าสามแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่หลังได้แชมป์ลีก และเอฟเอ คัพไปก่อนหน้า
"ผมกำลังทำใจว่ากำลังจะแพ้" เซอร์อเล็กซ์กล่าวเวลาต่อมา "ผมเตือนตัวเองให้ยืดเข้าไว้ และยอมรับว่ามันไม่ใช่ปีของเรา หลังจากนั้นผมนี่อึ้งไปเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
21 พฤษภาคม 2008
แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เชลซี (ต่อเวลา, แมนฯ ยูไนเต็ดชนะจุดโทษ 6-5)
UEFA Champions League final, Luzhniki Stadium
50 ปี หลังเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่มิวนิค และ 40 ปี นับตั้งแต่แมนฯ ยูไนเต็ดได้แชมป์ยุโรปคราวแรก เอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เซฟลูกโทษที่จุดโทษของนิโกล่าส์ อเนลก้า เพื่อคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ สมัยที่ 3 ของแมนฯ ยูไนเต็ด และครั้งที่สองของเซอร์อเล็กซ์ จอห์น เทอร์รี่ ลื่นล้มในจังหวะยิงจุดโทษลูกก่อนหน้าของเชลซี ที่ทำให้เชลซีพลาดแชมป์