สมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ หรือ PFA เปิดเผยว่า การที่พรีเมียร์ลีกขอความร่วมมือให้นักเตะลดค่าเหนื่อยลง 30% เพื่อช่วยการเงินของสโมสรในช่วงการระบาดของไวรัส COVID-19 อาจจะส่งผลเสียในวงกว้าง ไม่ใช่แค่เหล่านักเตะอาชีพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงงบประมาณที่จะใช้เพื่อนำไปควบคุมการระบาดของไวรัสอีกด้วย
ตัวแทนของกลุ่มนักเตะเชื่อว่า หากลดค่าเหนื่อยนักเตะในพรีเมียร์ลีกจริง จะเท่ากับว่ามีเงินหายไปจากระบบมากกว่า 500 ล้านปอนด์ หรือราว 20,000 ล้านบาท ซึ่งโดยปกติเเล้วเงินจำนวนนี้จะถูกหักเป็นภาษีให้กับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเมื่อนักเตะได้รับค่าจ้างราว 40% เท่ากับว่า รัฐอาจสูญเสียภาษีไปมากถึง 200 ล้านปอนด์ หรือราว 8,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
ดังนั้นหากมีการลดค่าจ้างลงเท่ากับว่า สำนักงานบริการสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักร หรือ NHS ที่ต้องรองบประมาณจากรัฐบาลจะต้องได้รับผลกระทบไปด้วยแน่นอน
จากประเด็นดังกล่าว จึงทำให้พรีเมียร์ลีก ที่เพิ่งจัดประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยมีเหล่าผู้บริหาร, นักเตะ และผู้จัดการทีมเข้าร่วม ยังไม่สามารถหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องค่าเหนื่อยของนักเตะในช่วงที่ไม่มีโปรเเกรมเเข่งขัน ณ เวลานี้ได้
อย่างไรก็ตาม ทาง PFA ก็ได้ยอมรับว่า แนวทางการช่วยเหลือของพรีเมียร์ลีก ที่จะบริจาคเงิน 20 ล้านปอนด์ให้กับ NHS รวมถึงลงเงิน 125 ล้านปอนด์ เพื่อช่วยเหลือ ฟุตบอลลีก และ เนชั่นแนลลีก ลีกระดับล่างรวมไปถึงรากหญ้าของอังกฤษนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ถึงกระนั้นก็เชื่อว่า ทางพรีเมียร์ลีก ควรจะต้องทุ่มเงินให้มากกว่านี้อีกเยอะๆ เลยทีเดียว